ป้ายกำกับ

วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560

summer in seoul 2017 : cafe splash ep.1.1










 เพราะมีเหตุที่ทำให้ต้องอยู่เกาหลีคนเดียว คาเฟ่ทัวร์จึงเกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้เอง 
แต่ก็ทำให้ได้รู้ว่าเที่ยวคนเดียวก็มีความสนุกในแบบของมันและเกิดเป็นความทรงจำที่ยากจะลืม


อย่ารอช้า  ไปดูกันเล้ย go go go!




ps. อยากเห็นรูปชัดๆกดรูปเข้าไปดูรูปใหญ่ๆได้เลยน้า







1 - Mint Heim





ประเดิมคาเฟ่แรกที่น่าจะถูกใจคนรักมิ้นท์กันไม่น้อยเลยล่ะค่ะ Mint Heimสะดุดตาเราตั้งแต่ได้เห็นรูปในอินสตาแกรม ด้วยสีมิ้นท์บนเครื่องดื่มและอาหารประกอบกับบรรยากาศของร้านที่ชวนให้ไปแวะพักมากๆเลยค่ะ ร้านนี้เราจดไว้ในลิสต์ว่าจะไปเยือนในทริปนี้ ปรากฎว่าในวันแรกที่ไปถึงเราเดินเล่นในย่านฮงแดไปเรื่อย ฝนเกิดตกจึงอยากหาร้านนั่งรอฝนซา แล้วมาเจอร้านนี้โดยบังเอิญค่ะ







เดินผ่านประตูหน้าร้านไป ปรากฎว่าอยู่บนชั้นที่สองค่ะ เราก็เดินขึ้นไปพบกับเมนูขนมหวานมิ้นท์ที่วางกันเรียงรายในตู้ แต่เพราะเราพึ่งทานอาหารเสร็จจึงสั่ง Mint Latte มาเพียงแก้วเดียว










ด้วยความที่ร้านมีกระจกติดอยู่รอบๆร้านเลยเสริมบรรยากาศให้ดียิ่งไปอีกเลยค่ะ
 ฝนเกาหลีก็ตกปรอยๆตลอด ทวีคูณความเหงาในตัวเราได้ดีจริงๆค่ะ 5555555




direction: การเดินทางมาร้านนี้ไม่ยากเลยค่ะ ถ้าทุกคนเดินข้ามทางม้าลายมาจากฝั่งที่เดินจากสถานีรถไฟฮงอิก (Hongik University Station Exit9) แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆจนเจอร้าน LUSH ซึ่งให้เดินเข้าไปในซอยนั้นโดยมีร้าน LUSHอยู่ทางขวามือค่ะ ร้านนี้ก็จะอยู่ด้านซ้ายของเรานั่นเอง





2 - Brookyln Burger Joint









Diner สไตล์อเมริกันพร้อมเสิร์ฟบนถนนกาโรซูแห่งนี้ เย้ายวนใจเรา
ตั้งแต่เห็นรีวิวในอินเทอร์เน็ตแล้วล่ะค่ะ ด้วยความที่เป็นสายอเมริกันฟาสต์ฟู้ดอยู่แล้ว
 เมื่อได้มีโอกาสไปจึงไม่พลาดแน่นอน













เมื่อไปถึงเราได้นั่งที่ Counter barเพราะว่ามาคนเดียว 
พนักงานให้เราไปนั่งก่อนจึงนำเมนูมาให้แล้วถึงจะมารับออเดอร์ค่ะ







เราสั่ง Cheese Burger + set ที่มีเฟรนช์ฟรายส์กับโค้กไปค่ะ สนนราคา 9,800+2,500 วอน 
หลังจากอาหารมาเสิร์ฟเราก็ไม่เสียเวลานาน camera eats first แล้วก็ลงมือทันทีค่ะ








อื้อหือ เนื้อเบอร์เกอร์ฉ่ำมาก ชีสที่เขาบอกว่านำเข้าจากอเมริกาก็ช่างเข้ากัน ไหนจะเฟรนช์ฟรายส์เส้นใหญ่ที่ถูกใจเราอีกด้วย ถ้าให้คะแนนร้านนี้เต็ม10 ให้ร้านนี้8เลยค่ะ หักแค่ราคาแอบแพงไปหน่อย




direction: ถนนกาโรซู (Garosu-gil) ; Sinsa Station exit 8 เมื่อเดินตรงออกจากสถานีต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังถนนกาโรซู ให้เดินข้ามไปอีกฝั่งนึงที่เดินขนานกันแล้วตรงเข้าไปเลยค่ะ จากนั้นหันซ้ายแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆจนเจอร้านค่ะ




3 - Skinfood Cafe








เป็นร้านที่เราไม่ได้ตั้งใจมาแต่แรกค่ะ ยอมรับเลยเพราะเห็นเป็นคาเฟ่ของแบรนด์เครื่องสำอางค์เลยไม่อยากให้ใจเท่าไหร่ #หนูขอโทษค่ะ แต่เราได้เข้าไปเพราะจะไปดูผลิตภัณฑ์ของแบรนด์
จึงเกิดใจอ่อนพาตัวเองขึ้นไปยังชั้นสองของร้านที่เป็นที่ตั้งของคาเฟ่นี้ค่ะ












ร้านตกแต่งในโทนสบายตา ดูอบอุ่น(มาก) เราไปหาที่นั่งก่อนเพราะตอนนั้นมีลูกค้าอยู่ 2-3โต๊ะเท่านั้น เลือกที่นั่งได้สบายเลยค่ะ เรามาลงตัวที่โต๊ะติดหน้าต่างโชว์วิวถนนกาโรซูที่มีผู้คนพลุกพล่าน
 วางของอะไรแล้วก็เดินไปสั่งเครื่องดื่ม 


ช่วงนั้นมีเมนูออกใหม่เป็นบิงซูพีช แต่เรากลัวทานไม่หมดเลยเลือก Peach Smoothies มาแทนค่ะ 
ใครที่กำลังจะไปร้านนี้รวมทั้งสายพีชด้วย เราขอแนะนำเลยว่าตัวนี้ต้องโดนจริงๆค่ะ 
เจ้าตัวนี้จะให้กลิ่นพีชอ่อนๆ ทานแล้วละมุนมาก
 เป็นเมนูที่นำพีชมาทำแล้วไม่อวลจนเกินไปค่ะ ชอบมากๆ








ลืมบอกว่ายังมีชั้นสามของร้านที่เป็นที่นั่งด้วยนะคะ 
แต่ด้วยอากาศบวกความเป็นดาดฟ้าแล้วคือไม่ควรขึ้นไปนั่งตอนนั้นจริงๆล่ะค่ะ lol







direction: ถนนกาโรซู (Garosu-gil) ; Sinsa Station exit 8 เมื่อเข้ามาถนนกาโรซูให้เดินตรงไปเรื่อยๆ ร้านจะอยู๋ฝั่งขวาของอีกฝั่งถนนค่ะ



4 - soosoo coffee







เป็นร้านที่เราตั้งใจจะมาแต่แรกเลยค่ะ  ร้านนี้เดินมาจากถนนกาโรซูพอสมควรเลย
 พอเดินมาถึงหน้าร้านก็ตื่นเต้นไม่น้อยไปกับดีไซน์ของร้าน รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ค่ะ 
เราไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องตกแต่งแต่ก็ชอบการตกแต่งที่minimal คือไม่เยอะจนเกินไป
 เรียบๆดีค่ะ (เพื่อนชอบแซวประโยคนี้ เราชอบอะไรเรียบๆแต่ก็มีอะไร เรียบๆดีค่ะ 55555555)









เพราะเขาเลือกใช้โต๊ะขนาดเล็กทำให้มีจำนวนโต๊ะเยอะและจุคนได้เป็นจำนวนมาก มีทั้งโซนที่เป็นหลังคาโปร่งแสงและด้านในที่เป็นหลังคาทึบค่ะ








เราเลือกที่นั่งด้านนอกเพราะตอนนั้นยังมีแสงอยู่แม้จะเกือบทุ่มนึงแล้วก็ตาม
 เราสั่งเป็นกาแฟดำที่ใส่คาราเมลและท้อปปิ้งอื่นๆมาด้วยค่ะ ราคาแอบโหดไม่ใช่น้อยเลย







สิ่งที่เราชอบอีกอย่างคือน้ำดื่มที่มีไว้บริการนั้นเค้าจะใส่พวกเบอร์รี่ไปด้วยค่ะ ทำให้น้ำมีสีชมพูน่ารักแถมยังมีรสเบอร์รี่อีกด้วย เวลาดื่มหลังจากดื่มกาแฟเข้มๆมาแล้วตัดรสได้ดีทีเดียวค่ะ



direction: ถนนกาโรซู (Garosu-gil) ; Sinsa Station exit 8




5 - ZAPANGI








ร้านที่กำลังเป็นเทรนด์และเราก็เน้นตัวหนามากๆว่าต้องมาให้ได้ ด้วยคอนเซปท์ของร้านที่แปลกตา
 เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ประตูร้านเป็นตู้กดเครื่องดื่มและเค้กที่บรรจุมาในกระป๋องเงินค่ะ







ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้สถานีมังวอน เดินจากสถานีผ่านตลาดมังวอนไม่ไกลก็จะเจอประตูตู้กดน้ำสีชมพูบานใหญ่อยู่ด้านซ้าย เราไม่รอช้าเข้าไปในร้าน เล็งหาที่นั่ง ก่อนจะเดินไปสั่งเครื่องดื่ม







เราสั่งชานมกับเค้กบลูเบอร์รี่ไป ความจริงคือ เราไม่ได้คาดหวังกับรสชาติขนาดนั้น แต่พอเจ้านมไหลผ่านลิ้นไปก็ต้องขอกลับคำ เธอเป็นชานมที่ดีมาก หอมชามากๆค่ะ ทานกับเค้กที่สั่งมาก็ยิ่งเข้ากั๊นเข้ากัน










direction: Mangwon Station exit 2



6 - Viva Salon





เหตุเกิดจากตอนนั้นเราได้ส่องแท็กของสาวๆเกาหลีจนมาเจอร้านนี้โดยบังเอิญค่ะ 
สะดุดตาที่เมนู Cookie Monster นี้ค่ะ







เราเข้ามาก็วางกระเป๋าลงที่ๆนั่งที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวในร้านคือโต๊ะริมหน้าต่างติดประตูร้าน 
พอได้เครื่องดื่มมาก็ไม่ผิดหวัง บาริสต้ารังสรรค์หน้า Cookie Monsterลงบนลาเต้ได้อย่างน่ารัก








ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆที่มีของเล่นขายด้วยล่ะ การเดินทางก็ไม่ยากค่ะ ตั้งอยู่ใกล้สถานีมังวอน 
เดินเลยร้าน ZAPANGIมานิดเดียวเองค่ะ








direction: Mangwon Station exit2





7 - Avec el Shop&Cafe








ปณิธานในใจว่าต้องไม่พลาดร้านนี้ แม้ในตอนแรกจะเห็นโลเคชั่นในแผนที่แล้วท้อไม่เบา เพราะสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีโซลที่ต้องเดินประมาณ 1 กิโลได้ แต่ความอยากกินอยู่ที่ไหน ความต้องได้กินก็อยู่ที่นั่นด้วยค่ะ เราเดินตามGPSในโทรศัพท์มาพร้อมกับทำตัวเองให้เอนจอยรอบทางเพื่อให้ไม่รู้สึกเหนื่อย ซึ่งก็ได้ผลมากๆเลยค่ะ พอเราไม่เดินลุยไปเป้าหมายอย่างเดียว แต่พิจารณาดูรอบทางไปด้วย ก็ได้เห็นอะไรมากมายที่เราไม่เคยเห็นเลยล่ะ #คำคมมาเมื่ออยู่คนเดียว





ในที่สุดจุดสีน้ำเงินในแอพพลิเคชั่นแผนที่ก็พาเรามาหยุดอยู่ที่หน้าร้าน ดีไซน์มินิมอลสมกับเป็นเกาหลีใต้ น้อยแต่หรู เรียบแต่โก้













เราไม่รอช้าเข้าไปในร้านทันที มีคนนั่งก่อนเราอยู่แล้วหนึ่งโต๊ะ เราเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง (อีกแล้ว) และเดินไปสั่งอาหาร และได้มาเป็นเค้กราสเบอร์รี่และเกรปฟรุตโซดา ถ่ายรูปไปก็ตื่นเต้นกับครีมสดที่ราดมาบนเค้กไม่น้อย จนได้จ้วงคำแรก อารมณ์ที่ว่า คิดถูกแล้วที่ยอมเดินมาไกลนั้นคุ้มจริงจริ้งงงงง












direction: Seoul station exit 1




8 - Innisfree green cafe








อันนี้เป็นสาขามยองดงค่ะ อยู่ใกล้ปากทางที่ตรงข้ามกับห้าง Lotte Young Plaza แน่นอนว่าคาเฟ่นี้อยู่ชั้นสองโดยมีช็อปของแบรนด์อยู่ด้านล่างค่ะ เรามุ่งหมายที่จะสั่งแพนเค้กหนาๆดึ๋งดั๋งนั่น แต่ตอนที่เราไปสั่งมันเลยเวลาที่เค้าปิดครัวแล้ว แม้จะอกหักแต่ไม่ยอมถอย


 เราสั่ง Jeju snow iced tea apple (6,000 วอน) มาค่ะ จากนั้นเราเลยไปหาที่นั่ง 
ซึ่งได้ที่นั่งริมหน้าต่างมาเช่นเคย เห็นภาพความคึกคักของมยองดงยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจนเลยล่ะค่ะ





direction: Myeongdong Station / Euljiro-1-ga Station





9 - Kamong Cafe







แน่นอนว่าร้านนี้เป็นร้านที่เราลิสต์ไว้ในใจนานแล้วค่ะ
 เมนูฮิตของร้านคือ Mint Choco Frappe กับวาฟเฟิ้ลหลากรส
 วันนั้นเราได้เจ้าตัวแรกกับ Basic Waffle มาค่ะ


 ประทับใจในการผสมผสาน Mint กับ Chocolate chipsได้เข้ากันสุดๆค่ะ 
ส่วนวาฟเฟิ้ลก็ใส่ถั่วไปด้วยค่ะ เคี้ยวไปพร้อมกับแป้งเค้กก็กรุบๆเพลินดีเลยน้า












direction: Seoul National Univ. of Education exit 1 ; เดินตรงมาเรื่อยๆ อยู่ติดกับร้านมินิมาร์ท CU







all rights reserved 

©
xmilkmilkx.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น